วันนี้ ที่รอคอย… (รีวิว SONY NWZ-W202)

มันเป็นการรอคอยที่นานแสนนาน แต่ก็ไม่นานเกินที่จะรอ
นั่นคือการรอให้ราคาเครื่องเล่น mp3 ของ SONY รุ่นที่เป็นแบบเกี่ยวหู
(หรือเกี่ยวหัวหว่า) ลดราคาลงในระดับที่จีรศักดิ์รับได้
เพราะราคา gadget ของ SONY ทุกอย่างมักแพงเว่อร์ และแล้ววันนั้นมันก็มาถึง
ได้อานิสงค์จากการสมัครสมาชิกเวปขายของ shopping ของเกาหลีสารพัดเจ้า
ก็เลยหาได้ในราคาที่ถูก แถมอัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้ยิ่งเป็นใจ ค่าเงินวอนตกกราวรูด
ทำให้จีรศักดิ์ได้มันมาในราคาหักจากบัตรเครดิตไทยแล้วเป็นเงิน 2,200 บาทเท่านั้นจ้า…
อันนี้ซื้อจากเวป interpark ที่จีรศักดิ์ใช้สั่งซื้อหนังสือมาอ่านบ่อยๆ
(เห็นไหม ไม่ได้ใช้ซื้อแต่ของไร้สาระนะจ๊ะ) ที่เมืองไทยตอนนี้ราคายังอยู่ที่ 2,900 อยู่เลย
แต่ถ้าเทียบกับราคาเปิดตัวเกือบ 4,000 บาทแล้วล่ะก็ ราคาที่จีรศักดิ์ได้มาถือว่าคุ้มมากๆ

z_sony_DSC03769

ในกล่องมาพร้อมกับขาตั้งสวยหรูคู่ศตวรรษที่21 ขาตั้งนี้จะทำหน้าที่เป็นแท่นชาร์จไฟ
และโอนเพลงเข้าตัวเครื่องเล่นจ๊ะ เครื่องเล่นนี้ไม่มีหน้าจอ ใช้งานลำบากนิดนึง
แต่จีรศักดิ์เอาไว้ฟังเล่นขำๆในตอนออกไปเดินเล่น หรือโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน
มันสะดวกมากที่ไม่ต้องเอามือไปพะวงกับสายอันรุงรังเหมือนเครื่องเล่น mp3 อื่นๆทั่วไป
 

f_SONY_DSC03771

หูฟังสองข้างผนึกกันได้ด้วยพลังแม่เหล็ก เวลาจะใช้ก็จับแยกออกแล้วยัดหู
ยิ่งยัดเข้าไปลึกๆ เสียงเบสยิ่งกระหน่ำ หลายคนคงอยากได้เอาใว้ใส่วิ่งจ๊อกกิ้ง แต่ขอบอกว่า
รุ่นนี้มันไม่กันน้ำและกันเหงื่อ ส่งคืนกันมาเยอะแล้ว SONY เองก็รู้เรียกคืนไปหลายตัว
และออกรุ่นใหม่มาแก้หน้า แต่หน้าตาของรุ่นใหม่เทอะทะ อุ้ยอ้าย สมกับที่มันกันน้ำได้
(กำลังประชดอยู่นะนั่น) จีรศักดิ์เลยเลือกรุ่นเก่าดีกว่า อันเก่านี้หน้าตาก็ทำด้วยสแตนเลส
ดูเก๋ไก๋สไลเดอร์ดีกว่ารุ่นใหม่ตั้งเยอะ จีรศักดิ์ไม่เอาไปใส่วิ่งออกกำลังกายอยู่แล้ว
มันคงไม่พังหรอกน่า เรื่องคุณภาพเสียงอยู่ในระดับดี เสียงเบสนุ่ม แต่เสียงขาดมิติไปนิด
เพราะมันปรับอะไรไม่ได้เลย ไม่เหมือนเครื่องเล่น mp3 ยี่ห้ออื่นที่ปรับมิติเสียงได้
จีรศักดิ์ชอบการปรับเสียงแบบ DNSe ของ Samsung เป็นพิเศษ แต่ตัวที่ฟังแล้ว
สุดยอดที่สุดแล้วคือ NOKIA N810 (คนไทยไม่มีโอกาสได้แตะตัวนี้)
คุณภาพเสียงมหัศจรรย์มาก

f_Kong_Sony

เข้าเรื่องต่อดีกว่า พอสวมใส่แล้วก็จะดูหล่อล้ำนำสมัยอย่างเช่นนายแบบข้างบน คริคริ
ใส่แล้วขยับเขยื้อนคล่องตัวมาก สายไม่พันตัวอีลุงตุงนังเหมือนดักแด้
อย่างเช่นเครื่องเล่นที่มีสายทั่วไป
แม้บางครั้งบางโอกาส มั
นจะดูเว่อร์ชวนน่าหมั่นไส้ไปนิด
ขอเตือนก่อนว่า ไอ้เครื่องนี้มันไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน บางคนใส่แล้วดูดี
แต่บางคนใส่แล้วอัปลักษณ์หนักเข้าไปอีก คนที่ใส่แล้วเท่ห์ต้องเป็นคนหุ่นนักกีฬาหน่อยๆ
ส่วนจีรศักดิ์หุ่นไม่นักกีฬา แต่เป็นคนน่ารัก ก็เลยใส่แล้วถึงแม้ไม่เท่ห์โดดเด่น
แต่ก็ไม่ถึงกับใส่แล้วดูไม่ดี คริคริ (แอบหมั่นไส้ไหม) ดังนั้นก่อนจะซื้อมาใส่
กรุณาลองที่ร้านก่อนจะเป็นการดี อันนี้ซีเรียสนะ จะบอกให้… ไม่ได้โกหก
ลองคิดดูสิ มันเป็นอุปกรณ์ที่ต้องเอาไปติดหนึบกับหน้า
ถ้ารูปร่างมันไม่เข้ากับหน้า มันก็ดูตลกจริงๆนะ…

สุดท้าย ขอขอบคุณ ประเทศเกาหลี
ผู้นำพาของราคาถูก สู่ชีวิตจีรศักดิ์เสมอมา…

 

I am addicted to this song… ฟังได้ทั้งวันเลยเพลงนี้…

วันนี้เป็นวันแรกที่รู้สึกได้ว่าฤดูใบไม้ผลิมาถึงเกาหลีแล้ว
อากาศที่เคยหนาวจับขั้ว ก็กลายเป็นหนาวแบบ mildๆ ไม่ทรมานเหมือนวันก่อนๆ
แต่จะว่าอากาศอุ่นก็ยังไม่เชิง อากาศแบบนี้ทำให้จีรศักดิ์อารมณ์ดีปี้ปิ๊ดทั้งวัน
(แต่ตอนดึกอารมณ์เสียอีกเพราะกิ๊กส่งSMSมาหาเรื่อง กิ๊กจีรศักดิ์เป็นใครไม่บอกหรอก แบร่)

เผอิญช่วงนี้กำลังชอบเพลงนึงขนาดบ้าคุ้มคลั่ง วันนี้ฟังไปแล้วเป็นรอบที่ร้อยเห็นจะได้
เคยไหมที่ชอบเพลงไหนมากๆแล้วฟังได้ทั้งวัน เพลงนี้ก็เป็นเพลงหนึ่งที่ทำให้จีรศักดิ์เป็นแบบนั้น
มันเป็นเพลงเย็นๆสไตล์ละติน ร้องเป็นภาษาสเปน จีรศักดิ์ชอบเพลงสไตล์ละติน
กับ Bossa Nova บวก Jazz นิดๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (ดูหน้าตาไม่รู้เลยนะเนี่ยะ)
ได้ฟังเพลงนี้ถึงขนาดเกือบลงแดงเลยถ้าไม่ได้ฟังวันละหลายๆรอบ

เพลงนี้เป็นเพลงประกอบหนังเกาหลีเรื่องหนึ่ง (ยังดูไม่จบ ก็เลยเอามาเล่าไม่ได้)
แค่ 10 วินาทีแรกที่เพลงนี้ขึ้น จีรศักดิ์ก็ตกหลุมรักซะแล้ว เพลงนี้น่าจะถือกำเนิด
แถวๆอ่าวฮาวานา ของคิวบา ประวัติเพลงนี้จริงๆแล้วยาวเหยียด และมีหลายเวอร์ชั่นมาก
และน่าจะเป็นเพลงที่ถูกร้องมากที่สุดเพลงหนึ่งของโลก (ทำไมช้านถึงเพิ่งได้ยินวะเนี่ยะ)

จีรศักดิ์ไปคุ้ยคำแปล ซึ่งแต่ละเวปก็แปลตามใจฉันมากๆ ไม่ตรงกันเลยซักเวป
มีแต่เวปของญี่ปุ่นซึ่งดูน่าจะแปลเข้าท่าหน่อย ก็เลยยึดเอาเวอร์ชั่นแปลภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก
(แม้กระนั้นก็เชื่อว่ายังไม่ตรงกับความหมายเดิมในเพลงเป๊ะๆ)

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาฟังเพลงกันเลยดีกว่า…

อยากได้ mp3 ก็บอกนะจ๊ะ จะส่งให้หลังไมค์
ในคลิปยูตู๊บนี่เสียงค่อนข้างไม่ดี

   

 

LA PALOMA
นกพิราบ คุ๊กคู
(ไม่ได้แปลว่า ปลาโลมา นะจ๊ะ)

Cuando salí de la Havana
วันที่ฉันต้องออกจากท่าเรือแห่งฮาวานา

¡Valgame Dios!
โอ้วพระเจ้า

Nadie me ha visto salir si no fui yo.
ไม่มีใครตามมาส่งฉันสักคนเลย มีแต่ตัวฉันเอง

Una linda guachinanga
มีเด็กน้อยน่ารัก

¡Valgame Dios!
โอ้ว

Que se vino tras de mi
วิ่งตามฉันมาทางด้านหลังโน่น

Que sí, señor
(ไม่รู้จะแปลยังไง คำอุทานอันนี้)

 

(*) Si a tu ventana Ilega una paloma
ถ้าเธอเห็นนกพิราบตัวนึงบินมาเกาะที่หน้าต่างแล้วล่ะก็

Trátala con cariño que es mi persona
นั่นแหละฉันเอง ดูแลมันให้ดีด้วยล่ะ

Cuéntale tus amores, bien de mi vida
เล่าเรื่องรักๆของเธอให้มันฟังบ้างล่ะ คนดีของฉัน

Corónala de flores que es cosa mía
ใส่มงกุฎคอกไม้ประดับให้มันหน่อยนะ เพราะนั่นมันคือฉันเอง

 

Ay! chinita que sí
สุดรักของฉัน

Ay! que da me tu amor
ให้ความรักกันฉันนะ

Ay!  que ven tu conmigo chinita
จะไม่มากับฉันเหรอ

A donde vivo yo

มายังที่ที่ฉันอยู่น่ะ

ซ้ำ (*)

 

แล้ววันที่จีรศักดิ์ต้องออกจากเกาหลีล่ะ
ชีวิตจะเหมือนเพลงนี้ไหม…
ขอให้เอาใครกลับมาได้ซักคนเถ๊อะ สาธุ อาเมน…..

 

กลับเมืองไทยแบบ Royal Silk คริ คริ

 
จีรศักดิ์กลับมาเมืองไทยแล้วพี่น้อง !! หนีหน้าหนาวเกาหลีกลับมาไทยเดือนนึง
ปีนี้หนาวนรกมาก ยืนรอแทกซี่ไปสนามบินตอนใกล้ 6 โมงเช้าท่ามกลางอุณหภูมิ -6
เป็นประหนึ่งดั่งการบำเพ็ญทุกขกิริยา…
 
 

กลับคราวนี้ไม่ธรรมดาจ๊ะ เพราะจีรศักดิ์เลือกชั้น Business Class
เพื่อให้สมกับฐานันดรชั้นกระฎุมพี (แปลว่าไรไปหากันเอาเอง)
อิ อิ ปล่าวหรอก เผอิญแค่จองตั๋วทางเวปของการบินไทย ราคาตั๋วชั้น
Economy Class แทบไม่ต่างจาก Business Class เลย แม่เจ้า
มันเป็นไปได้อย่างไรน่ะหรือ หึ หึ เดี๋ยวเรามาตามไปดูกัน…
 
แล้วชั้น Business Class หรือเรียกตามภาษาการบินไทยว่า Royal Silk
มันดีเด่กว่าอย่างไรน่ะหรือ… หากเป็นการบินมาเมืองไทย
จะไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง
ต้องขาออกจากไทยนั่นแหละ จึงจะเห็นความคุ้มค่ามากหน่อย
  
จีรศักดิ์จะรีวิวเที่ยวจากเกาหลีมาไทยก่อนนะ
เริ่มจากตอน Check-in ก็มีเคาน์เตอร์ต่างหาก
ไม่ต้องต่อคิวปะปนกับสามัญชนคนธรรมดา แถมปูพรมให้สวยสด
กระเป๋าเอาขึ้นได้ถึง 30 กิโล (บวกกับสมาชิก Royal Orchid บัตรเงิน
ของจีรศักดิ์อีก 10 กิโล ฮ่าๆ ขนสมบัติมันเลยทีนี้)
กระเป๋าติด Priority Tag ให้
(แต่คาดว่ามันก็ยังถูกโยนถูกขว้างและมาช้าไม่ต่างจากเดิม)
 
 
มี lounge ให้นั่งระหว่างรอเครื่อง อย่างไรก็ดี
การบินไทยไม่มี lounge ของตัวเองที่สนามบินปูซาน
ต้องระเห็จไปใช้ lounge ของสายการบินพันธมิตรอย่าง Asiana
ซึ่งความหรูหราอยู่ในระดับ =งั๊นๆ= อย่างรุนแรง..
ของกินก็น้อยมาก แม่ไม่ปลื้มจริงๆ เอาเถอะช่างมัน
ไว้ขากลับไปเกาหลีแล้วได้เข้าเลานจ์
ของการบินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อไหร่
จะต้องมีรายการเอาคืนอย่างถึงที่สุด…



ถึงเวลาขึ้นเครื่องก็มีช่องพิเศษ เดินตัวปลิวนวยนาถเข้าเครื่องได้เลย
ไม่ต้องต่อคิวทำตัวปะปนกับสามัญชน
เห็นที่นั่งไหมเอ่ย ใหญ่ก็จริงแต่เป็นที่นั่งรุ่นพระเจ้าหมื่นปี
และนี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมราคาถึงถูกมหัศจรรย์
การบินไทยน่าจะได้รับรางวัลสายการบินอนุรักษ์นิยมดีเด่นอีกรางวัล
บังอาจเอาป้ามาบิน กรอด…. อย่างไรก็ดี
ที่นั่งกว้างทำให้จีรศักดิ์หลับสบายไม่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว
จะคุดคู้ท่าไหนก็ได้ตามใจนึก แถมหน้าต่างให้อีกสองหน้าต่าง
กว้างขวางสบายจริงๆ

 
 
ความเคียดแค้นจากเรื่องที่นั่งรุ่นบรรพกาล ถูกลบเลือนด้วยของแจกแถมมากมาย
จีรศักดิ์หยิบนิตยสารต่างประเทศที่พนักงานเข็นมา รวมได้ 5 เล่ม ดีจริงๆ
ได้เช็ต Amenity มาสองชุด (เพราะคนข้างๆไม่เอา อิ อิ )
อาหารก็ถูกเสิร์ฟอย่างเต็มรูปแบบราวภัตตาคาร 
เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยตามรูปด้านบน ต่อมาเป็นอาหารชุดหลัก
ตามด้วยชุดผลไม้และเนยแข็ง  (เลือกได้ด้วยว่าจะกินผลไม้อะไร)

 

ส่วนไวน์ดีดีก็มีเสิร์ฟไม่อั้น   ปิดท้ายด้วยเค้กและกาแฟคาปูชิโน
(มันเป็นคาปูชิโนที่อร่อยที่สุดตั้งแต่กินมาเล้ย)
และแถมด้วยแซนด์วิชก่อนลงเครื่อง เดินพุงกางลงจากเครื่องเลย เอิ่ก…

แต่การบริการโดยรวมติดลบนะ เห็นแอร์ที่มีรังสีเมตตากรุณาอยู่คนเดียว
นอกนั้นรังสีอำมหิตแรงกล้ามาก จนจีรศักดิ์ไม่กล้าต่อกรหรือเรียกร้องอะไรเพิ่ม
โดยเฉพาะสจ๊วดตุ๊ด (ที่ถือเป็นมาสคอตประจำสายการบินไทย)
นี่แผ่รัศมีวงกว้างมากเป็นพิเศษ ขอน้ำแก้วนึงยังไม่เอามาให้เลย
ต้องไปขอแอร์ผู้อารีย์แทน  จีรศักดิ์โมโห
ก็เลยเอาแก้วกลับมาเพื่อระลึกถึงความทรงจำอันโหดร้ายใบนึง อิ อิ
 
ก่อนลงจากเครื่อง มีประกาศห้ามนำสัตว์เข้าประเทศ
จีรศักดิ์ร้อนตัวมาก… เพราะกลัวเจ้าหน้าที่ด่านจะค้นพบสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในปาก..
กร๊ากกกก….
 
ออกจากสนามบิน โดนลมร้อนปะทะกายา อูวววว ช้านนเกลียดเมืองไทย…..
เมื่อเช้า -6 ตอนนี้น่าจะซัก 32 องศา อยากจะพุ่งตัวกลับเกาหลีในบัดดล
หนาวยังไงก็ห่มผ้าให้อุ่นได้ แต่อากาศร้อนนี้แก้ผ้าเดินก็ไม่หาย จริงไหม..
 
 
 

 

HP Sucks! พอกันที HP สุดห่วย ไม่ซื้อแกอีกแร๊ว… (อัพเดท)

หายไปเกือบเดือนเพราะโน้ตบุ๊ค HP ที่ใช้งานมาได้สองปีมันพัง
เริ่มจาก Wireless Lan เสีย แล้วก็เริ่มมีอาการแฮ้งค์
ตามด้วยอาการเปิดแล้วไม่ค่อยติด  เหมือนมันขี้เกียจตื่นเอาซะงั๊น
(เหมือนเจ้าของเลย กร๊ากก) จนในที่สุดก็แน่นิ่งกลับบ้านเก่าไปในที่สุด

x_DSC02206

(ตอนนี้กำลังบ้า Farmville กับติดกาแฟ Starbucks แบบขวด
ที่ขายตามซูเปอร์ที่เกาหลีในราคา 75 บาทไทย ฮ่าๆๆ)

จริงๆ ปกติจีรศักดิ์จะใช้โน้ตบุ๊ค 2-3 ปีแล้วก็เปลี่ยน และถ้าเสียอย่างนี้
จะเอาไปขายต่อก็ไม่ได้ แล้วท่าจะเป็นอาการเสียที่สาหัสซะด้วย
ยังดีที่ใช้ netbook ที่มีอยู่ (ก็ยี่ห้อHPอีกนั่นแหละ) แก้ขัดไปก่อน
ใช้netbookหลายๆวันมันก็ขัดใจเพราะไม่เร็วปรู๊ดปร๊าดสะใจวัยรุ่นตอนปลาย
อย่างจีรศักดิ์ก็เลยต้องหอบโน้ตบุ๊ตฝ่าลมหนาวเคล้าผิวแตกขึ้นรถเมล์
ไปศูนย์ซ่อม แล้วก็นั่งต้องนั่งบรรยายปากเปียกปากแฉะถึงอาการเสีย
เป็นภาษาเกาหลีอีก กรี๊ดด… เจ้าหน้าที่บอกว่าเมนบอร์ดเสีย
ต้องเปลี่ยนและเสียเงินราวเกือบ 9000 ไทย กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
จีรศักดิ์แทบเป็นลมน้ำลายฟูมปากตายตรงนั้น แต่คิดว่ามันก็ช่วยไม่ได้อ่ะนะ

กลับมาบ้าน ลอง google อาการเสียดู (ตอนนี้คำว่า google มันกลาย
เป็นคำกริยาในพจนานุกรมไปแล้วนะ) ก็พบว่าไอ้เจ้ารุ่น tx1307 (1300)
ที่จอเป็นแบบ Touch Screen นี้มันมักจะพบอาการแบบเดียวกัน
กับของจีรศักดิ์เป๊ะๆ และอาการที่ว่ามันก็มักจะพบเมื่อเวลาผ่านไปเป็นปี
(ก็คือหมดช่วงประกันแล้วนั่นแหละ แม๊ มันช่างเลือกเวลาเสียได้ดีจริงๆพับผ่า)
และไม่ว่าศูนย์ HP ที่ไหนทั่วโลกก็จะบอกว่าต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่
ด้วยราคาเท่าๆกันกับที่จีรศักดิ์จ่ายที่เกาหลี อย่างนี้แสดงว่า
รุ่นนี้มันมี defect แต่ HP ไม่ยอมเรียกคืน
(ว่าแล้ว ทำไมจีรศักดิ์ซื้อไปได้ไม่นาน มันลดราคาจาก 4 หมื่นกว่า
เหลือ 3 หมื่นถ้วนเอง)

ตอนไปรับเครื่องก็บ่นกับพนักงานว่าอาการแบบนี้เป็นกันทั่วโลกนี่
พนักงานก็ตอบแบบเขาสีข้างถูว่าคุณเอาไปใช้งานแบบไหนเราก็ไม่รู้ได้
มันสองปีแล้วด้วย แล้วเครื่องนี้ก็ไม่ได้ซื้อที่เกาหลีด้วย ผลิตมาแบบไหนก็ไม่รู้
แล้วก็ยังอ้างเหตุผลอีกร้อยแปด จีรศักดิ์ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
แต่ที่แน่ๆ คันไม่คันมืออยากชกมันมากๆ 
(จริงๆคาดไว้แล้วแหละ ว่ายังไงมันก็ไม่รับผิดชอบ)

พอกันที คอมพิวเตอร์ยี่ห้อ HP เล่นไม่ซื่อกันแบบนี้ ข้าน้อยก็ขอลา
ชาตินี้ชาติไหนจะไม่ซื้อของมันอีกแล้ว จริงๆตัว netbook เองก็มีปัญหา
ฝุ่นเข้าหน้าจอ มิน่าพอออกรุ่นไหมก็เห็นเปลี่ยนหน้าจอเป็นแบบใหม่
(แต่สีสันและความชัดเจนห่วยลงกว่าเดิมนะ)   

ได้ยินมานานแล้ว ว่า HP ควบคุมคุณภาพไม่ค่อยดี ตอนนี้เจอกับตัวรู้แล้ว
เครื่องต่อไปใช้ Toshiba เหมือนเดิมดีกว่า เคยใช้มาสองเครื่องไม่เคย
มีปัญหาอะไรเลย ทำตกก็ไม่พังด้วย

ศูนย์ที่เกาหลีหากจะมีข้อดีสักน้อยนิด ก็เห็นจะเป็นความรวดเร็ว
ในการให้บริการ ปกติใช้เวลาวันเดียวเสร็จ เหลือเชื่อมากๆ
ถ้าบริการไม่เร็วก็แพ้ Samsung, LG แน่ เพราะเจ้าโน้นบริการสุดยอดมาก
(เฉพาะที่เกาหลีประเทศแม่มันหรอกนะ) อีกอย่างHPท่าจะรอดยากที่เกาหลีด้วย
เพราะแผนกขายคอมที่เกาหลีในหลายๆห้าง ชอบแอบเอาป้ายราคาของ HP
ไปซ่อน ส่วนคอมของเกาหลีเองมีป้ายบรรยายสรรพคุณพร้อมราคายาวเหยียด
ตอนแรกรู้สึกเห็นใจว่า HP เปรียบเสมือนลูกเมียน้อย ตอนนี้แอบสะใจว่ะ..

และแล้วชีวิตของจีรศักดิ์ได้ก็กลับมาโลดแล่นในจังหวะBossaNovaอีกครั้ง
คอยพบกับบลอคตอนใหม่ ที่สะสมไว้เตรียมออกสู่สายตาประชาชีทั่วโลก
เร็วๆนี้…

(อัพเดทเพิ่มเติม)
ไปเจอข่าว จัดอันดับ notebook ที่เสียบ่อยที่สุด
HP ขึ้นอันดับ 1 ครองแชมป์อย่างน่าภาคภูมิใจ
กรอดด.. ทำไมจีรศักดิ์ไม่เห็นก่อน



อยากรู้รายละเอียด ตามลิงค์ไปเลยจ้า

http://www.notebookspec.com/web/?p=12917

ปฐมบท แห่งคอมพิวเตอร์พกพา ขนานแท้ (ปัจฉิมบทแห่งคอมพกพานามว่าโนเกีย)

 

ท่องเวปชอปปิ้งเกาหลีไปเพลินๆ พรหมลิขิตก็บันดาลให้จีรศักดิ์ได้คลิกไปเจอกับ
คอมพิวเตอร์พกพาของแท้ขนาดมือเดียวถือได้ พกพาสะดวก
แล้วยังใช้ระบบปฎิบัติการ WindowsXP ด้วย กรี๊ดด เป็นไปได้ไงงงง
ขยี้ตาแล้ว ขยี้ตาอีก อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า
เกาหลีมันจับ WindowsXP ยัดลงไปในเครื่องเท่านี้ได้อย่างไร
และถ้าเจ้าเครื่องนี้ทำทุกอย่างได้เหมือนคอมเครื่องใหญ่ อย่างนี้ก็ไม่ต้อง
เรียนรู้อะไรใหม่เลย ไม่ต้องปวดหัวกับการไปหาโปรแกรมมาลงด้วย

xxDSC01657

คิดสะระตะกับค่าตัวสองหมื่นบาท แบตใช้ได้นาน 6 ชั่วโมง
ไม่มีฮาร์ดดิสก์เพราะใช้หน่วยความจำSSD (32GB) พัดลมระบายความร้อนไม่มี
จึงไม่มีส่วนใดเคลื่อนไหว และทำงานเงียบราวมดตด (อ่านว่า มด ตด)
จอเป็นแบบ touch screen ด้วย แจ่มแจ๋วมากพี่น้อง

เผลอแป๊บเดียว เจ้าเครื่องที่ว่ามันก็มาวางอยู่บนโต๊ะจีรศักดิ์ราวกับเสก
กล่องสวยมาก สาวเกาหลียิ่งทำให้กล่องดูสวยขึ้นไปอีก กรี๊ดดด

xDSC01728

แอ่น แอ๊น เครื่องมาก็นั่งบ้าเล่นทั้งวัน ไม่เป็นอันเรียนอีกเช่นเคย
ลงภาษาได้ทุกภาษา ท่องเวปและประมวลผลเร็วจรวดเท่าๆกับ Netbook
เพราะใช้ Intel Atom เหมือนกัน พระเจ้าช่วย.. มันเป็นไปแล้ว
และมันก็มาอยู่ในมือข้าแล้ว ข้อดีอื่นๆของมันก็เช่น มีปุ่มบังคับด้านข้าง
ช่วยเลื่อนหน้าจอ มีระบบเปิดเครื่องรวดเร็ว 3 วินาที มีช่องต่อ USB
รับสัญญาณ Wireless Lan และ Bluetooth ได้
มีคีย์บอร์ดเสมือน กดแล้วสั่นด้วย
วันตายของผองเหล่า PocketPC มาถึงแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

xDSC01730

เพราะมันลงโปรแกรมทุกอันได้เหมือนเครื่องใหญ่ จึงลง GOM ได้
สัมผัสแห่งประสบการณ์ดูวีดีโอแบบพกพาไปดูได้ทุกที่จึงบังเกิด
จอก็สวยสดมาก ทำไม๊ ทำไม เกาหลีทำได้ ยี่ห้อนี้เป็นของเกาหลีเองเลย
Made in Korea ของแท้ ยี่ห้อของมันคือ ViliV จ้า (อ่านว่า วิลลิป น่ะ)

คอมพกพา NOKIA N810 ระบบปฎิบัติการ Linux
ที่จีรศักดิ์ซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว (ยังจำกันได้ไหมเอ่ย) จึงมีอันต้องตกกระป๋อง
ไปโดยปริยาย เสียใจด้วยนะน้อง NOKIA ชั้นไม่หันกลับไปหาแกอีกแล้ว
ชั้นพบคู่ครองใหม่ เป็นชาวเกาหลี สวย สด ใหม่ ไว ฉลาด
versatile  ทำได้ทุกอย่าง เกาหลีจงเจริญ บันไซ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

+UPDATE+

ประกาศขายนะครับ ตอนนี้มีไอแพดแล้ว เลยไม่ได้แตะตัวนี้เลย…
สภาพใหม่มาก ไม่มีริ้วรอยเลย
ติดต่อมาที่เบอร์ 08 9161 ห้าห้าศูนย์ศูนย์

 

ข้อสังเกตจากการลดความอ้วนครั้งใหญ่ในชีวิต…

fatcat2

ตอนนี้จีรศักดิ์อยู่ในช่วงลดความอ้วนครั้งมโหฬารกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์
มันทรมานปนสดชื่นยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก เริ่มตั้งแต่กินน้อยลง
และพยายามวิ่งจ๊อกกิ้งที่ห้องยิมให้หอทุกวัน (ตรงนี้แหละที่ทรมานสังขาร)
จากน้ำหนักเดือนที่แล้ว 77.5 ลดลงไปเหลือ 71.5 (ลงไป 6 กิโลแล้วจ้า)
หน้าตาดูผอมลงไปแต่คางยังตุ้ยนุ้ยอยู่ ส่วนท้องหายไปเยอะเลย
แหวนที่ใส่อยู่ก็หลวมจนแทบหล่น
แต่เสียใจนะจ๊ะ จีรศักดิ์จะไม่ให้ดูรูปในช่วงเมตามอร์ฟอร์ซิสหรอก
เอาไว้ครบ 10 กิโล หล่อเต็มวัยเมื่อไหร่จะถึงจะให้โพสต์ให้ดู
อย่างไรก็ดี จีรศักดิ์มีข้อสังเกตบางประการมานำเสนอนะจ๊ะ

 

1. หนึ่งเดือน ลงไปหกกิโล ฟังดูเหมือนจะเยอะ แต่ลองมาคิดคำนวณดูดีดีแล้ว
เฉลี่ย 1 วันลงไปแค่ 2 ขีดเท่านั้น กรี๊ดดดดด
เสกของเข้าท้องมันง่ายกว่าการเสกให้หายออกไปจากร่างกายเยอะเลย
เข็ดแล้ว
จ้า กลัวแล้วจ้า ต่อไปนี้ข้าน้อยไม่มูมมาม กิ๋นจุ๊บจิ๊บอีกแร๊วววววว
อ้อ ลืมบอกไป มีบ้างที่น้ำหนักไม่ลงเลยอยู่สองสามวัน
แล้วมีบางครั้งที่น้ำหนักลงไปเลยเกินห้าขีดภายในวันเดียว

2. แรกๆที่กินน้อยลง ถ้าเป็นคนปกติจะรู้สึกทรมานท้องมาก
แต่โชคดีจีรศักดิ์ตอนนั้นอยู่ในช่วงรักคุดนิดหน่อย (เอาอีกแล้วตรู)
เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสได้สุดยอดจริงเรา ก็เลยกินได้น้อยลงโดยไม่ต้องพยายาม
กินน้อยลงได้อาทิตย์กว่าก็เริ่มอยู่ตัว กิน
อะไรมากๆไม่ได้เหมือนก่อน มันจะทรมานท้อง
ขนาดกินแฮมเบอร์เกอร์กุ้ง Lotteria ชุดเดียวยังอิ่มแทบตายเลย
ดังนั้นจีรศักดิ์จึงได้เคล็ดลับมาฝากท่านๆว่า ในช่วงแรกของการกินน้อย
เพื่อ
ไม่ให้ทรมาน ให้หาเรื่องกลุ้มใจชวนเก็กซิมและทำให้กินข้าวไม่ค่อยลงมาสักเรื่อง
ถ้าไม่มีก็สร้างเอาเอง เช่นเอามือถือสุดรักไปโยนน้ำอะไรแบบนั้น อิ อิ

3. นั่งเก้าอี้แข็งๆแล้วเจ็บก้นมากขึ้น เพราะเนื้อที่ก้นหายไป
นอกจากนั้น เวลาจับแล้วดูเหลวๆยังไงก็ไม่รู้ ไม่เด้งดึ๋งดั๋งเหมือนสมัยก่อน
แขนก็ยวบยาบพิกล สาวจีนที่นั่งข้างๆในชั้นบอกว่าทำไมแขน
เธอไม่ฟิตปั๋งเหมือนสมัยก่อน
โฮะ แขนไม่ฟิต อย่างอื่นยังฟิตนะจ๊ะ

4. ซาวน่าช่วยได้จริงๆ ไปซาวน่าในที่อาบน้ำสาธารณะประมาณอาทิตย์ละครั้ง
น้ำหนักจะลงไปครึ่งกิโลทันที และไม่เพิ่มขึ้นด้วย แม้จะกินน้ำเยอะๆเพื่อชดเชยเข้าไปแล้ว
มันเหมือนไปขับเอาอะไร
หมักหมมทั้งตัวออกไป ไม่ใช่แค่บางส่วนเหมือนการออกกำลังกาย
เวลาออกจากซาวน่าเค้าจะทำบ่อน้ำเย็นใหญ่ๆไว้ จีรศักดิ์ไม่แช่เฉยๆ ว่ายน้ำมันไปเลย
สะใจ ได้ออกกำลังกายด้วย แต่ก็รู้สึก
แปลกๆนะกับการแก้ผ้าหมดแล้วว่ายน้ำ
มันจั๊กจี้ยังไงพิกลบอกไม่ถูก ลองนึกถึงโฆษณาเบบี้มายด์สมัยก่อนสิ
ที่เป็นเด็กแก้ผ้าว่ายในสระ ยังไงอย่างงั๊นเลย 
(ที่อาบน้ำสาธารณะของเกาหลีก็เหมือนจีนกับญี่ปุ่นคือต้องแก้หมดทุกกิจกรรม)
จีรศักดิ์มีที่ประจำซึ่งจะมีคนน้อยมาก ก็เลย
ว่ายได้สะดวกไม่รบกวนคนอื่น

5. สมองจำอะไรได้น้อยลง (ปกติก็จำอะไรไม่ค่อยได้อยู่แล้ว
โดยเฉพาะพฤติกกรรมของคนเลวๆ) นี่เป็นข้อเสียเลยแหละ
เพราะจะทำให้จำศัพท์ที่ท่องไปไม่ค่อยได้ สงสัยต้องหาวิตามินมากินเสริม
แล้ว
(สงสัยจะเสร็จสาวกแอมเวย์ก็งานนี้แหละ) หรือไม่ก็เรียนภาษาทางลัดด้วยการ…. อิ อิ

6. เพิ่งรู้ว่าตัวเองกินเยอะเกินความต้องการมาตลอด
ตอนนี้กินน้อยลงเกือบครึ่งแต่ก็ไม่ยักกะตายหรือทรมานตรงไหน แถมสุขสบายดีไม่มีโรคภัย
ดีนะที่ไม่มารู้ตัวเอาตอนจะแก่ตายซะก่อน  แต่เดี๋ยวปลายเดือนถ้ากลับเมืองไทย
กลัวจะอดใจกับอาหารไทยไม่ไหวจริงๆ ทำไงดีหว่า

7. ที่แน่ๆ แม่บ้านทำครัวใต้หอ มองหน้าจีรศักดิ์แล้วซุบซิบกันว่า
จีรศักดิ์หล่อขึ้น (ตรูคิดไปเองอ๊ะเปล่าเนี่ยะ)

เดือนหน้าคงได้เห็นจีรศักดิ์ในเวอร์ชั่นใหม่
แบบที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Umare kawaru 生まれ変わる 
หรือในภาษาเกาหลี  เซโร แทออนาดา 새로 태어나다
(จะใช้มันหลายๆภาษาทำไมเนี่ยะ ไม่เข้าใจชีวิต….)

 

 

อัพเกรดความไฮเทคให้สุดขั้ว…

กลับเมืองไทยไปเมื่อเดือนที่แล้ว จีรศักดิ์กระหายอยากจะใช้เงินบาทเต็มทน
และแล้วก็ได้เสียเงินสมใจ ส่วนได้อะไรกลับมาเกาหลีนั้น เราไปดูกัน..

ZZZZ_DSC00765

ชิ้นแรก เล็งมานานแล้ว เนทบุ๊คขนาดพกพา หนักแค่กิโลเดียว แถมบางเฉียบเซ็กซี่
ใช้มือเดียวจับโยนได้เลย อินเทรนด์ม๊ากมากๆๆๆ ยี่ห้อ HP Mini
เอาไว้ใช้ตอนออกไปข้างนอก จะได้ไม่ต้องแบกโน้ตบุ้คตัวหลักไปให้เมื่อยตุ้ม
หรือใช้ตอนพิมพ์งานนานๆหลายชั่วโมง จะได้เป็นการถนอมเครื่องหลักไปในตัว
(เคยทำสถิตินั่งหน้าคอมทำรายงาน 11 ชั่วโมง) สาวเอยจะบอกให้..
ใครจะเรียนปริญญาเอก จงคิดให้หนักนะจ๊ะ.. เนทบุ้คตัวนี้ ราคาแค่ 13700 เอ๊ง
ซื้อเครื่องหลักของจีรศักดิ์ได้ 4 เครื่อง ถูกเช่นนี้จะไม่ซื้อได้อย่างไร
แอบตินิดนึง ว่าขอบจองานประกอบไม่ค่อยดี ฝุ่นเข้าไปในหน้าจอได้ เซ็งเป็ดสุดๆ
ใครจะซื้อรุ่นนี้จงคิดให้หนัก แต่ถ้าหน้ามืดตามัว เห็นแก่ของถูกเหมือนจีรศักดิ์
ก็จงซื้อซะ เพราะนอกนั้นแล้วอะไรก็ดีประทับใจไปหมด โดยเฉพาะคีย์บอร์ดใหญ่คับเครื่องเลย

 xxx_DSC00769

ชิ้นที่สอง ซื้อเพราะมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ เล่าแล้วจะยาวมากๆ จนผู้เขียนแฮรี่พอตเตอร์
ต้องหันมาค้อนด้วยความริษยา บอกใบ้ได้ว่ามันเป็นเพราะความโง่ของจีรศักดิ์เอง
ก็เลยต้องซื้อรุ่นนี้มา มันคือโทรศัพท์ยี่ห้อดังสนั่นโลกนามว่า HTC 3G  หน้าจอสัมผัส
แบบลื่นปรื๊ดๆ บาง เบา และแบน เหมือนจับหินแบนๆที่เค้าเอามาฝนขอบให้มนๆ
ไม่ขอบอกว่าเท่าไหร่ เพราะมันแพงจนอาจจะโดนสังคมลงโทษประชาทัณฑ์
เมื่อได้รู้ราคา แต่ซื้อมาใช้ไม่ผิดหวังจริงๆ เอามาใช้ที่เกาหลีรับสัญญาณของผู้ให้บริการ
ได้มากเจ้ากว่าโนเกียตัวเก่า ลงโปรแกรมไว้เยอะมากๆๆเพราะหาโหลดตามเวปใต้ดินได้ง่าย
ยิ่งตอนนี้ใช้มือถือระบบ Windows Mobile แล้วเราสามารถสำรองข้อมูลทุกอย่าง
ในเครื่องเราไปเก็บไว้บนเวปของ Microsoft ได้เลย
ตั้งแต่ SMS รายชื่อ ปฏิทันนัดหมาย รูปถ่าย วีดีโอ ไฟล์เอกสาร ได้หมดจริงๆ
ใครอยากรู้รายละเอียดลองไปดูที่ http://myphone.microsoft.com นะจ๊ะ
จีรศักดิ์ลองแล้วใช้ดีมากๆ ใครอยากเก็บข้อความที่กิ๊กส่งมา
แต่กลัวคนอื่นเปิดมือถือแล้วเห็น บริการนี้ทำมาเพื่อคุณโดยเฉพาะเลยจ้า

ZZZZ_DSC00803

ไหนๆก็พามันมาใช้ชีวิตที่เกาหลี เลยหาทางให้มันรู้จักภาษาเกาหลี หลังจากพยายาม
ปลุกปล้ำอยู่นาน มันก็แสดง SMS ภาษาเกาหลีได้ อ่านไฟล์ ดูเวปภาษาเกาหลีได้หมด
โดยที่ไม่ตีกับระบบภาษาไทยด้วย แต่…
โปรแกรมมันทำให้เครื่องต๊อง กลายเป็นส่ง SMS ไม่ได้ ก็เลยต้องถอนออก
กรี๊ดดดดด ไม่น่าเลย ฮือๆๆ

zzzz_DSC00802

ชิ้นสุดท้ายของเดือนนี้ (เอ พูดแบบมีนัยยะแฮะ) เป็นเมาส์ที่หรูหราที่สุดตั้งแต่ใช้มาในชีวิต
มันคือเมาส์ไร้สายยี่ห้อ Microsoft ตัวเก่าพังเพราะไปข่มขืนมันมากเกิน ทั้งกดทั้งไถ
ทั้งกระแทก ชนิดพิศาล อัครเศรณี แห่งจำเลยรัก ต้องซูฮกยกนิ้วให้
ตัวใหม่นี้ทั้งเบา ทั้งเท่ห์ แท่งส่งสัญญาณที่เสียบกับโน๊คบุุ๊คก็เล็กมาก แถมซองผ้าให้ด้วย
แล้วเชื่อไหม เมาส์ตัวนี้มันพับครึ่งได้ ใช้เสร็จจับหักกลางลำตัวได้เลย สุดยอดมาก
ที่สำคัญที่สุดคือ เวลาคลิกไม่มีเสียง จิ๊กๆ แบบเมาส์ถูกๆทั่วไปตามท้องตลาด
ที่คลิกทีนึงได้ยินไปทั้งซอย แหม ของแพงมันก็ต้องมีสมบัติผู้ดี ลืมบอกไป ตัวนี้ซื้อที่เกาหลี
คิดเป็นเงินไทย พันห้าเอ๊ง ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับความเที่ยงตรง เหมือนเปลี่ยนจาก
ขับรถอีแต๋น มาขับรถสปอร์ตอย่างไงอย่างงั๊น ไม่ได้โม้นะ ถ้าใช้คอมนานๆ จะรู้ว่า
การได้เมาส์คู่ใจดีดีนั้น มันสำคัญขนาดไหน อิ อิ 

ช่วงนี้เขียนแต่เรื่องไร้สาระ คราวหน้าสัญญาว่าจะเขียนเรื่องวิชาการหนักสมองสักเรื่อง
คอยติดตามกันนะจ๊ะ..

และแล้ว.. วันนี้ก็มาถึง สวัสดี ปูซาน..

การเตรียมตัวไปเรียนต่อมันมีอะไรให้ทำมากกว่าที่คิด
ทุกวันเป็นวันที่แสนจะวุ่นวายและสับสน ไม่รู้ต้องทำอะไรก่อนหลัง มามีสติอีกทีก็…

SANY0020e

อยู่บนเครื่องบิน จะถึงปูซานแล้ว ชีวิตข้างหน้าจะเป็นยังไงต่อไปล่ะนี่
กับตันประกาศ วันนี้อุณหภูมิต่ำสุด ลบ3 องศา อืม ยังพอทน..

SANY0025e

ถึงแล้ว มหาวิทยาลัย หาสิ่งมีชีวิตแทบไม่มี เพราะยังไม่เปิดเทอม
มหาวิทยาลัยจะอยู่บนเขาลูกใหญ่ๆลูกหนึ่ง ถ้าเดินขึ้นก็พอทน นึกซะว่ามาปีนเขา
แต่ถ้านั่งรสบัสของมหาลัยที่ให้บริการฟรีจะสะดวกกว่า

SANY0027e

ตึกเรียนก็ว่าอยู่สูงแล้ว แต่ที่อยู่สูงกว่าตึกเรียนมากก็คือ หอพักที่จีรศักดิ์ต้องใช้กินนอน
ลองดูวิวจากระเบียงห้องก็จะรู้ว่า ถ้าต้องเดินขึ้นมาจากตัวเมืองมันจะสาหัสขนาดไหน
เมื่อวันไปซื้อของที่ซูเปอร์ แบกของขึ้นมาท่ามกลางอากาศติดลบ อืม.. บัดซบจริงๆ

SANY0032e

แต่เมื่อแลกกับวิวยามค่ำคิน ก็จะรู้สึกคุ้มค่าขึ้นมานิดๆ
ได้ข่าวว่าอาจจะต้องย้ายห้องทีหลัง แล้วจะได้วิวแบบนี้หรือเปล่านะ
เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี่ก่อน ขอกลับไปนอนสลบอีกยก เหนื่อยมาก..

โน้ตบุ๊คตัวใหม่ โย่ว..

จีรศักดิ์พาร่างอ้วนๆ (ที่อ้วนน้อยกว่าปีที่แล้ว) มากรุงเทพฯอีกแล้วด้วยธุระล้านแปด
ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว หนึ่งในนั้นคือการเสาะแสวงหาคอมพิวเตอร์ทดแทน
เครื่องใหม่ที่ใกล้จะถึงกำหนดปลดระวางด้วยโรคชรา และแล้ว จีรศักดิ์ก็ได้พบรัก
กับโน้ตบุ๊คหุ่นหรูดูเก๋ไก๋สไลเดอร์  มันไม่ได้เป็นแค่โน้ตบุ๊คธรรมดา แต่มันพับหน้าจอ
พลิกกลับมาใช้เขียนได้ เหมือนกับเป็นสมุดจดบันทึกทั่วไป โดยใช้ปากกาที่ให้มา
จิ้มลงไปได้เลยตามใจปรารถนา ใช้มันส์กว่าเมาส์อีก.. คราวนี้แหละ ความฝันที่จะได้นอน
เอกขเนกเล่นเนทของจีรศักดิ์ก็จะเป็นจริง เพราะถือมันได้สารพัดท่าเลย
จะวางบนตักก็ได้ ไม่ต้องกางหน้าจอเล่นบนโต๊ะในแบบเดิมๆอีกต่อไป

Copy of P1005047

ที่สำคัญ มันรู้ภาษาคนด้วย อย่างเช่นในโปรแกรม Word ลองเขียนภาษาญี่ปุ่นด้วยมือไป
มันก็แปลงเป็นอักษรใส่ลงไปให้อัตโนมัติ ฉลาดลึดล้ำแบบนี้ มีค่าตัวที่ 4 หมื่นปลายๆจ้า
กัดก้อนเหลือกินไปอีกหลายร้อยวันเลยงานนี้

copy P1005041

ที่สุดแสนห่วย เห็นจะมีเรื่องเดียว คือมันใส่ Windows Vista มาให้
ได้ยินกิตติศัพท์มานานแล้วว่าแสนห่วย สวยแต่รูป จูบไม่หอม
พอมาเจอของจริงเข้ารู้ซื้งเลย ขนาดตอนบูตระบบยังใช้เวลากว่า 4 นาที
ทำงานเหมือนป้าแก่ๆใกล้ลงโลง และเปลืองทรัพยากรเครื่องอย่างที่สุด
 
คิดถึง Windows XP เว้ยยย

copy P1005016

เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่ามากรุงเทพเรื่องส่วนตัว ขอพูดถึงเรื่องงานหน่อยละกัน
ต้องพานักศึกษาชาวเกาหลีกลุ่มนึงมาทัศนศึกษาที่กรุงเทพฯ จีรศักดิ์ก็พาไปเที่ยว
วัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวัง ช่วงนี้มีงานสำคัญ คนแต่งชุดดำมากันมืดฟ้ามัวดิน
แถมเดี๋ยวปิดประตูนั้นเปิดประตูนี้ให้วุ่นวาย ไม่รู้ต้องเข้าประตูไหนแน่
ยังไม่พอ เดี๋ยวคนต่างชาติเข้าได้ เดี๋ยวเข้าไม่ได้ ข้อมูลอะไรไม่แน่นอนทั้งนั้น
เลยต้องลากสังขารเดินรอบกำแพงวังซะหลายรอบ ผอมไปหลายโลเลย
ตัวคล้ำลงด้วย เซ็งชีวิตจริงๆงานนี้

copy P1005037_cr

โดดมาเข้าเรื่องส่วนตัวดีกว่า มีอันต้องมาเป็นเพื่อนป้าพาหมาพุ๊ดเดิ้ลไปผ่าตัด
เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็เพิ่งรู้ว่าประเทศไทยมีโรงพยาบาลสัตว์โดยเฉพาะ
อยู่ในมหาลัยเกษตรศาสตร์นี่เอง ตึกใหญ่โตกว่าโรงพยาบาลคนอีก เจ้าหน้าที่ทุกคน
ตั้งแต่คนถูพื้นถึงสัตวแพทย์ก็รักสัตว์และเป็นมิตรมากๆ ทำไมทุกคนประเสริฐได้เท่านี้
ก็ไม่อาจเข้าใจได้ ไม่เหมือนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐทั่วไปที่ดุอย่างกับเสือเบงกอล
โรงพยาบาลก็สะอาดมากด้วย ไปตั้งแต่เช้า พอสายๆคนอุ้มสารพัดสัตว์แห่มากันจนแน่น
โรงพยาบาล ตั้งแต่หมา แมว กระต่าย เต่า นก ฯลฯ แต่สัตว์ส่วนมากโดนเฉพาะมหาและแมว
เหมือนมันจะรู้ชะตากรรมตัวเองว่าต้องมาเจ็บตัว โดยเฉพาะหมาตัวข้างบน เจ้าของต้อง
ลากถูลู่ถูกังมันเข้าห้องผ่าตัด เพราะมันไม่ยอม เกร็งขาแน่นเลย

ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาลจริงๆ ทำไมที่อื่นๆไม่ดีแบบนี้เลย
ทุกคนมี hospitality สมกับเป็น hospital ตัวอย่างจริงๆ

เปลี่ยนตัวเอง รับเปิดเทอม

เปิดเทอมแล้ววววว  ในที่สุดก็มีผู้โดยสารชุดใหม่มาให้จีรศักดิ์พายข้ามฝั่ง
ตามประสาเรือจ้างราคาถูก จึงพายชนแก่งบ้าง ผู้โดยสารเมาเรือบ้าง
หวังว่าผู้โดยสารชุดนี้จะไปถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย

 

แผนลดความอ้วนให้ทันเปิดเทอมของจีรศักดิ์พังทลายอีกรอบ
จึงหาทางกู้หน้าด้วยการเปลี่ยนลุคทรงผมใหม่ เพื่อไม่ให้รู้สึกชีช้ำในชาตะชีวิต
ที่เกิดมาอ้วนมากไปกว่านี้ ในรูปคงรู้ว่าจีรศักดิ์ทำอะไรกับทรงผม

ดัดผมไงล่ะ..อิ อิ  ครั้งแรกในชีวิต ตื่นเต้นสุดๆ…
หลังจากโดนช่างทึ้งผมอย่างสนุกสนาน แถมโดนน้ำยาสุดแสบราดหัว
ก็ได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้…

เป็นอย่างไรบ้างเอ่ย.. ส่วนตัวพอใจมั่กๆ เพราะดูเป็นหัวมนุษย์มากขึ้น
แตกต่างจากทรงเดิมที่ผมเป็นเส้นตรงๆอย่างกับเด็กไม่รู้โลก

ตื่นขึ้นมาก็ไม่ต้องอะไรมาก ขยี้ๆเสยๆก็เสร็จ ถ้าเป็นสมัยก่อนเหรอ
ต้องชะโลมด้วยเยลสารพัด หวีแล้วหวีอีกกว่าจะได้ทรง
อยากเกิดมาผมหยิกหยักศกแต่กำเนิดจริงๆ

ให้ดูแต่ทรงผม ห้ามวิจารณ์ถึงความบานของหน้า..

(เปลี่ยนขนาดฟอนต์ให้ใหญ่ อ่านง่ายขึ้น ดีไหมเอ่ย)

 

 

Previous Older Entries